The Mad World of Creativity 07 : Rest in Power, Our Legendary Designers who Died of COVID-19
ปลุกทุกฝัน ปั้นทุกจินตนาการให้เป็นจริง กับวัสดุหินระดับโลกจาก Stone & Style ผู้จัดจำหน่าย แผ่นหินควอตซ์, หินควอตซ์, quartz, หินเทียม, หินอ่อนอัด, หินอิตาลี, ท็อปครัว, ท๊อปหิน จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เช่น Silestone, Dekton, Santamargherita, Fuoriformato และ Sicis Vetrite แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
….
ปีที่ผ่านมานับเป็นปีแห่งการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการออกแบบโลก เมื่อเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้คร่าชีวิตเหล่าสถาปนิกและดีไซน์เนอร์เลื่องชื่อไปอย่างโหดร้าย เหลือไว้เพียงชื่อและผลงานพลิกโลกที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการทำงานของพวกเขา Stone & Style ขอสดุดี 4 สุดยอดตำนานแห่งวงการดีไซน์ที่จากไปเพียงตัว ทิ้งเส้นสายลวดลายแห่งงานออกแบบอันทรงพลังไว้ ให้กลายเป็นตำนานที่จะขับเคลื่อนโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ
1. เคนโซ ทากาดะ (Kenzo Takada) : แฟชั่นดีไซน์เนอร์ระดับตำนานผู้กว้างขวางไปถึงวงการอินทีเรีย
ในโลกแฟชั่น ไม่มีใครไม่รู้จัก เคนโซ ทากาดะ ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในปารีส แต่น้อยคนที่ทราบว่า เคนโซในวัยเกษียณทุ่มเทความหลงใหลให้กับงานอินทีเรียดีไซน์ เขาสร้าง “K3” ลิฟวิ่งสโตร์ของตนเองที่ยังคงกลิ่นอายสไตล์ KENZO ไว้ยอดเยี่ยม ระเบิดหัวคิดทวิสต์วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ร่วมสมัย หยิบแรงบันดาลใจจากสัญญะไอคอนิกที่แสดงความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ อาทิ ฟอร์มของดอกซากุระ อัตลักษณ์ของเกอิชาและไมโกะ สีสันจากอาภรณ์ของโชกุน รวมถึง คินสึหงิ (Kintsugi) ปรัชญาญี่ปุ่นที่ใช้ทองเชื่อมประสานรอยร้าวบนภาชนะ เข้ามาใช้เป็นแนวคิดหลักของการออกแบบของแต่งบ้าน ตัวตนอันทรงภูมืพลัง และความคิดสร้างสรรค์ไร้กรอบของ เคนโซ ทากาดะ ได้คงไว้ซึ่งความทรงจำอันดีงาม แด่นักออกแบบรุ่นหลัง ในทุกยามที่ระลึกถึง
2. เอนโซ มาริ (Enzo Mari) : สถาปนิก นักคิด และดีไซน์เนอร์ระดับบรมครูชาวอิตาเลียน
“The Milan Miracle” คือสมญานามที่ เอนโซ มาริ (Enzo Mari) ได้รับจากผลงานตลอด 60 ปีในวงการออกแบบของอิตาลี เขาคือผู้พลิกดีไซน์ของสิ่งของธรรมดาในชีวิตประจำวันให้โมเดิร์น สวยงาม และใช้งานได้จริง โดยเขาหลอมรวมศิลปะ งานออกแบบ งานสถาปัตย์ และกราฟิกดีไซน์เข้าไว้ด้วยกัน ผลงานของเขาจึงเป็นดั่งบทกวีแห่งงานดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ไม้ Sedia ที่ประกอบแล้วไม่ทิ้งเศษไม้ ปฏิทินสำเร็จ Timor ที่ใช้งานได้ตลอดกาล ถาดใส่ของ Prutella ที่จากโลหะ 1 แผ่น ของเล่นเด็ก 16 Animali จากไม้โอ๊คแผ่นเดียว และเสาไฟถนนในเมืองมิลานที่ทำให้เมื่อนึกถึงดีไซน์เนอร์ของมิลาน จะต้องมีชื่อของเอนโซปรากฎขึ้นทุกครั้ง
ผลงานของเขายังเป็นดีไซน์ไอคอนแห่งยุคสมัย เขาได้รับรางวัล Compassi d’oro รางวัลสูงสุดของวงการออกแบบในอิตาลีถึง 4 ครั้ง เชื่อได้ว่าดีไซน์ของเอนโซจะเป็นตำนานที่ยังคงจับต้องได้ตามบ้านเรือนผู้คนและในพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเขานั้นได้สั่นสะเทือนวงการดีไซน์โลกไปตลอดกาล
3.วิตตอริโอ เกรกอตติ (Vittorio Gregotti) : สถาปนิกผู้ออกแบบสนามกีฬาโอลิมปิกบาร์เซโลนา 1992
“Less is a bore.” คือ ปรัชญาของ วิตตอริโอ เกรกอตติ (Vittorio Gregotti) สถาปนิกชาวอิตาเลียนผู้มีชื่อเสียงด้านงานอาคารสาธารณะขนาดใหญ่ สไตล์ดีไซน์ของเขาเป็นอิสระจากกรอบโมเดิร์นเดิมๆ แต่ยังคงเคารพต่อบริบทโดยรอบทั้งผังเมือง ภูมิทัศน์ และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เขายังให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ โปรเจคของเขาจึงมักเปิดพื้นที่ให้ผู้คนจำนวนมากได้ใช้งานจริง อาทิ สนามกีฬาโอลิมปิกบาร์เซโลนา 1992 โรงละคร Grand Théâtre de Provence ในฝรั่งเศสที่เป็นทั้งโรงละคร ที่จัดคอนเสิร์ต และยังเป็นที่รอรถไฟและทางลัดสู่ถนนใหญ่อีกด้วย
ไม่เพียงเฉพาะผลงานทางสถาปัตยกรรม เขายังเป็นผู้ผลักดันแนวคิดทางสถาปัตย์สไตล์ post modernism โดยเขาเป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Casabella นักวิจารณ์ และยังเป็นผู้ริเริ่ม Venice Biennale of Architecture มหกรรมงานสถาปัตยกรรมที่กำหนดเทรนด์ออกแบบโลกอีกด้วย เรียกได้ว่า เกรกอตติคือสถาปนิกในตำนานผู้ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริง
4.ฟิลิป กาสแกร็ง (Philippe Cassegrain) : ดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบกระเป๋าไอคอนิกของ Longchamp
“เลอ ปลิยาจ (Le Pliage)” คือ กระเป๋าไนลอนรุ่นแรกของ ลองฌองป์ (Longchamp) แบรนด์ฝรั่งเศสที่ทั้งบริหารและดีไซน์จากมันสมองของ ฟิลิป กาสแกร็ง (Philippe Cassegrain) เขาได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะการพับกระดาษของญี่ปุ่น จึงหาวัสดุที่ทนทานต่อการพับจนมาจบที่วัสดุสำหรับทำเต๊นท์ทหาร จากนั้นจึงออกแบบด้วยปรัชญา “เรียบง่าย เกี่ยวพันกับผู้คน และสง่างาม” ให้กระเป๋าสามารถพับเก็บได้ มีน้ำหนักเบา และงดงามลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ จึงไม่แปลกใจว่า เลอ ปลิยาจ จะเป็นกระเป๋าที่ขายดีที่สุดของลองฌองป์ ขายได้กว่า 30 ล้านใบจนได้กลายเป็นกระเป๋าสามัญประจำบ้านของผู้คนทั่วโลก
ลองฌองป์ยังผสานศิลปะเข้าสู่งานดีไซน์ด้วยการร่วมงานกับศิลปินชื่อดังในการออกแบบลายสำหรับรุ่นพิเศษ อาทิ เจเรมี สก๊อต แฟชั่นดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกัน เคท มอส นางแบบชื่อดัง และ ซาราห์ มอริส ศิลปินชาวอังกฤษ กาสแกร็งจากไปด้วยวัย 83 ปี โดยเขาทิ้งตำนานแห่งวงการออกแบบไว้ให้รุ่นลูกได้สืบสานต่อไป
Stone & Style ขอไว้อาลัยแด่การจากไปของสถาปนิก นักคิด และดีไซน์เนอร์ในตำนาน ผู้ปิดฉากชีวิตบนโลกกว้าง แล้วออกเดินทางไปสร้างสรรค์ความงดงามบนสรวงสวรรค์ เหลือไว้ซึ่งผลงานบนผืนโลกที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าคนดีไซน์รุ่นหลังไปตลอดกาล
Rest In Peace and Power
In Remembrance of Our Legendary Designers and Architects